“เสก” ออกธัญญารักษ์แล้ว พร้อมแถลงสำนึกผิดขอเป็นองคุลีมาลกลับใจ
วอนสังคมให้โอกาสกลับมาร้องเพลงเหมือนเดิม
ประกาศกร้าวขอเอาชีวิตเป็นเดิมพันจะไม่กลับไปเสพยาอีกเด็ดขาด
เตือนศิลปินไม่จำเป็นต้องใช้ยา ใครติดยาให้มาเลิกซะ ด้าน “กานต์”
เผยสบายใจที่อดีตสามีเลิกยาได้แล้ว ลั่นให้อภัยทุกอย่างยกเว้นเรื่องผู้หญิง
แต่ถ้าอยากจะกลับมาเป็นครอบครัวกันเหมือนเดิมคงต้องคุยกันยาวๆ
หลังจากที่ร็อกเกอร์ชื่อดัง “เสก โลโซ”
เข้ารับการบำบัดยาเสพติดที่สถาบันธัญญารักษ์ ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม
ปีที่แล้ว ล่าสุดหลังจากอาการดีขึ้น เจ้าตัวก็พร้อมออกสื่อเป็นครั้งแรก
โดยเมื่อช่วงบ่ายวันนี้(10 กุมภาพันธ์)
เสกได้เปิดแถลงข่าวขึ้นที่สถาบันธัญญารักษ์ โดยมี “นางปลิว ศุขพิมาย” แม่ของเสก “อมร ศุขพิมาย” พี่ชายของเสก “อ้อม พรพิมล เทพพิชัย” ผู้จัดการส่วนตัวของเสก และผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง อย่าง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ นายแพทย์วิโรจน์ วีรชัย ผู้อำนวยการสถาบันธัญญารักษ์ นายแพทย์อังกูร ภัทรากร รองผู้อำนวยการสถาบันธัญญารักษ์ เดินทางมาร่วมงานด้วยตัวเอง
นอกจากครอบครัวและผู้หลักผู้ใหญ่ที่เสกนับถือแล้ว “กานต์ วิภากร” อดีตภรรยาของเสก ก็ได้หอบช่อดอกไม้พร้อมกับพา “น้องกวาง” และ “น้องลอนดอน”
ลูกทั้งสองคนของเสก มาให้กำลังใจถึงห้องแถลงข่าวด้วยเช่นกัน
ซึ่งวันนี้เสกได้เปิดใจขอโทษประชาชนอย่างเป็นทางการ
พร้อมประกาศขอเอาชีวิตเป็นประกันว่าจะไม่กลับไปเสพยาอีกเด็ดขาด
ชัยสิทธิ์ :
“วันนี้เรามีโอกาสได้คืนคนดีกลับสู่สังคม
เมื่อเสกได้เข้ามาขอรับการบำบัดแล้วได้มีประชาชนเข้ามาติดต่อขอเข้าบำบัด
จำนวนมหาศาล แสดงว่าเราทำแบบนี้ได้ผลมาก
ฉะนั้นเยาวชนและประชาชนทั้งหลายกลับตัวกลับใจเสียเถอะครับ”
นายแพทย์อังกูร :
“เราเปิดโครงการให้เสกกลับไปเยี่ยมบ้าน เพราะตอนนี้เสกอยู่ในระยะฟื้นฟูแล้ว
เราวางแผนให้เขาเป็นผู้ป่วยนอก
แค่นัดพบปะเข้ามาปรึกษาเพื่อให้ทางสถาบันได้ให้ความช่วยเหลือ
ชีวิตประจำวันเสกก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านได้แล้ว
หลายวันที่ผ่านมาเราให้เขากลับไปข้างนอกแล้วมาดูว่าเขาเป็นยังไงบ้าง”
นายถิรชัย :
“ตลอดเวลาในการเข้าบำบัดเราได้ติดต่อกับทางคุณไพบูลย์ตลอดเวลา
และเสกเองก็ได้มีความมุ่งมั่นที่จะเลิกจากการติดยา
ตอนนี้เสกอยู่ในสภาวะปกติ 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว รอดูอาการอีกเดือนครึ่ง
กรณีนี้ไม่ใช่แค่ผลพวงของตัวอย่าง แต่จะเป็นผลพวงที่แสดงให้เห็นชัดเจน
เป็นการคุ้มค่าที่จะใช้ในการบูรณาการเรื่องของยาเสพติดที่เสกยอมลงทุนตัวเอง
มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
แต่ระหว่างนี้คุณไพบูลย์เองก็กังวลว่าจะดูแลเสกยังไงในระยะฟื้นฟูนี้ให้เขา
ได้กลับมาทำงานได้ในระหว่างนี้ด้วย”
เสก :
“ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีทุกคน
และยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านหลังที่สองของเสก(หัวเราะ)
ไม่น่าเชื่อเลยว่ามาอยู่ได้เดือนกว่าแล้ว
และขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามข่าวนี้มาสองเดือนกว่าแล้ว
ก็ยังช่วยติดตามกันอยู่
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัวหรือเรื่องรักษาก็ดีที่ยังสนใจกันอยู่
ต้องขอขอบคุณมาก อีกเรื่องนึงที่ต้องขอโทษ
ตอนที่ไปแถลงข่าวที่บ้านได้ขอโทษไปทีหนึ่งแล้ว
แต่คราวนี้มีผู้ใหญ่ให้เกียรติมาด้วย”
“ผมสำนึกผิดและไม่ได้นิ่งนอน
ใจ วันนั้นที่ได้พูดออกไป ไม่ว่าจะด้วยความพลั้งเผลอหรืออะไรก็ตาม บ้าคลั่ง
บ้าระห่ำ ด้วยความเป็นร็อกแอนด์โรลสตาร์ก็แล้วแต่ แต่วันนี้ต่างจากวันนั้น
รู้สึกว่าตัวเองเป็นองคุลีมาลกลับใจแล้ว(หัวเราะ) แล้วแต่ท่านจะให้อภัย
อันนี้ต้องเรียกว่าต้องขอโอกาสให้องคุลีมาลองค์น้อยองค์นี้เป็นลูกองคุลีมา
ลก็แล้วกัน”
“และต้องขอเชิญชวนท่านที่รัก เสก โลโซ จริงๆ
ขอเชิญชวนให้มาบำบัด(พูดถึงตรงนี้ทำเอาทุกคนที่อยู่ในห้องแถลงข่าวปรบมือให้
เสกเกรียวกราว)
ให้มาบำบัดให้ลดละเลิกยาเสพติดที่ศูนย์ธัญญารักษ์หรือที่ไหนก็ได้
ผมว่าธัญญารักษ์นี่ดีที่สุดแล้วนะ(หัวเราะ) หมอก็น่ารัก พยาบาลก็น่ารัก
เสียอย่างเดียวมีแฟนกันหมดแล้ว
ว่าจะจีบก็จีบไม่ได้แล้วเพราะพยาบาลมีแฟนกันหมดแล้ว”
“ผู้ที่ติดยาเสพติดขอให้ลดละเลิก
รวมถึงผู้ค้าผู้ขายด้วยเพราะไม่อย่างนั้นจะเสียอนาคตกันหมด
คนค้าขายนี่ยิ่งหนักใหญ่เลย
ทั้งติดคุกโดนจับเพราะฉะนั้นผมขอเป็นกำลังใจให้ท่านได้มาบำบัดเสียนะครับ
เพื่ออนาคตของท่านเองและคนรอบข้างของท่าน เพื่อพ่อแม่ของท่าน
เพื่อครอบครัวของท่าน”
“ถามว่าระยะเวลาที่รักษาอยู่ที่นี่เป็นอย่างไร ผมบอกตรงๆ
ว่าผมมีความสุข ผมมีความอดทน ผมมีความพยายาม
ในการข้ามอะไรสักอย่างนึงในสิ่งที่ผมไม่เคยทำ
ผมนอนอยู่ในห้องของผมและผมเอาชนะใจตัวเอง ผมข้ามในสิ่งที่ไม่เคยข้าม
ทำในสิ่งที่ผมไม่เคยทำ อย่างตื่นเช้ามาออกกำลังกาย ได้เพื่อนใหม่ๆ เร็วๆ
นี้ถ้าผมหายดีผมจะจัดคอนเสิร์ตให้กับโรงพยาบาลธัญญารักษ์”
“ผมต้องขอขอบคุณน้องอ้อม ขอบคุณคุณแม่ ขอบคุณน้องหงส์
ขอบคุณน้องกานต์ ผมขอบคุณทุกคนเลย ขอบคุณที่รักผม ผมรักทุกคนนะ
พี่น้องครับผมรักทุกคนครับ ศิลปินไม่จำเป็นต้องพึ่งยาครับ
(พูดจบทุกคนต่างปรบมือให้เสกอย่างชอบใจ) ผมอยู่ที่นี่แต่งเพลงกว่า 20 เพลง
ทำได้สองอัลบั้มเลยมั้ง”
แถลงข่าวมาถึงตรงนี้ “เสก” ก็ได้เล่นกีตาร์และร้องเพลง
“ผู้หญิงมีเยอะ” แทรกการแถลงข่าว
โดยบอกว่าเป็นหนึ่งในเพลงที่แต่งระหว่างรักษาตัวอยู่ในธัญญารักษ์
ก่อนจะเปิดใจต่อถึงการรักษาที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกเครียดมาก
“ถามว่าตอนรักษาลำบากมั้ย ผมรู้สึกเครียดมาก
เครียดที่สุดในชีวิตเลยนะ
เพราะว่าไม่เคยอยู่คนเดียวแล้วก็เหงาขนาดนี้มาก่อน ทรมานมากเลย เขาจับมัด
จริงๆ ไม่ได้ล้อเล่นนะ เขาจับผมมัดจริงๆ(หัวเราะ)
เสร็จแล้วก็รู้สึกดีเพราะว่าไม่เคยมีใครทำกับเราแบบนี้มาก่อน
ทำให้ผมรู้สึกว่าการที่เราไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน
เราเคยแต่ปล่อยให้ใจเราเผลอเรอไปทุกอย่าง
ผมคิดว่าเหมือนเราอยากทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง
อย่างการที่เราปล่อยให้เราไปรักใครบางคนจนเละเทะไปหมดเลย
มันเป็นเรื่องเดียวกันนะ มันต้องจับมัดหัวใจของเราไว้บ้าง
ตัวเราก็เหมือนกันเราต้องจับมัดไว้บ้าง ไม่งั้นเราจะแย่
ซึ่งหมอจับผมมัดไว้ถูกแล้ว(หัวเราะ)”
“ผมว่ามันแตกต่างกันมาก
เพราะผมมีความมั่นใจว่าจะเลิกได้อย่างบริสุทธิ์ใจมาก
เพราะเรายินดีที่จะเลิก แล้วหมอเขาก็จะตามดู
ถ้าเราทำอีกหมอก็จะให้เรามาทำแบบนี้อีก ซึ่ง
ผมก็คงไม่เอาชีวิตของเรามาเสี่ยงทำแบบนี้อีก ผมยืนยันแน่นอน
ขอทำสัญญากับประชาชน ผมไม่รู้จะเอาวิธีไหนมาพูด
แต่ผมทำสัญญาได้เลยว่าผมขอเอาอาชีพนักร้องของผมเป็นประกัน
เอาชีวิตของลูกผู้ชายคนนี้เป็นประกัน ขอให้ทุกคนลดละเลิกยา
และเข้ามาบำบัดซะ ผมคิดว่าอนาคตก็จะดีขึ้น การเล่าเรียนก็จะดีขึ้น
การเข้ากลุ่มกับเพื่อนๆ ก็จะดีขึ้น แน่นอนที่สุดเชื่อผมเถอะ”
“ยามันทำให้เราออกห่างจากสังคม ไม่กล้าเข้าไปหาสังคม
สถานที่แห่งนี้ทำให้ผมเข้าไปแชร์ความรู้ ไปเล่นในสิ่งที่ผมไม่เคยเล่น
ผมไปเป็นนักฟุตบอล ไปทำหน้าตลกๆ ไม่ชอบก็ต้องทำครับ(หัวเราะ)
ถามว่าผมเอาอะไรเป็นประกัน ผมเอา
ชีวิตผมประกัน ผมจะไม่ยอมเสียลูกของผมสามคน ผมมีลูก ผมมีภรรยาที่ต้องดูแล
ผมจะไม่ยอมเสียเขาไปเป็นครั้งที่สองแน่นอน จริงมั้ยลอนดอน(หันไปมองลูก
งานนี้ทำเอาเสกได้รับเสียงปรบมือชื่นชมสนั่น) พ่อไม่ใช่พ่อที่ดีที่สุด
ผมอาจไม่ใช่สามีที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่
ผมอยากจะพาเขาไปเที่ยว วันนี้ผมอยากกลับบ้านไปอยู่กับลูกกับเมีย”
ด้าน “กานต์” ที่หอบดอกไม้มาให้กำลังใจอดีตสามี “เสก” ด้วยนั้น
ได้เปิดใจว่ารู้สึกสบายใจที่อดีตสามีเลิกยาได้แล้ว
บอกให้อภัยทุกอย่างแล้วยกเว้นเรื่องผู้หญิง
ซึ่งถ้าอยากจะกลับมาเป็นครอบครัวกันเหมือนเดิมคงต้องคุยกันยาวๆ
“วันนี้ตั้งใจกลับมารับพี่เสกกลับบ้าน
รู้สึกสบายใจที่วันนี้พี่เขาตัดเรื่องยาได้แล้ว
(เสกบอกว่าจะกลับไปอยู่เป็นครอบครัว?) เขาก็กลับไปอยู่กับลูกกับเมีย
แต่สถานะจะกลับมาเป็นครอบครัวรึเปล่านั้นขอคุยกันยาวๆ
เพราะไม่เคยคุยกับพี่เสกแบบเปิดใจมานานแล้ว เรื่องที่กังวลตอนนี้ไม่มี
เพราะมั่นใจว่าพี่เสกคงไม่กลับไปใช้ยาอีก
เพราะพี่เสกยืนยันหนักแน่นว่าไม่กลับไปแน่นนอน กานต์เชื่อในตัวพี่เสก
เพราะพี่เสกเป็นคนที่ไม่เคยกลับคำพูด”
“กานต์ให้อภัยเขาได้ แต่ถ้าเกิดเป็นเรื่องผู้หญิงขอคุยกันก่อน
แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นไม่คิดอะไรแล้ว
เรื่องแรกที่อยากคุยคงอยากให้พี่เสกได้เคลียร์ปัญหา
ทำความเข้าใจกับลูกน้องเสือ กับน้องกวางก่อน
ตัวน้องกวางเขาผูกพันกับพี่เสกมาก เขาอยากให้พี่เสกกลับไปอยู่ด้วยกัน
ส่วนน้องเสืออะไรก็ได้
แต่สิ่งที่น้องเสือเขาเป็นห่วงคือเขาไม่อยากให้พ่อกลับไปทำร้ายแม่อีก
ซึ่งเรื่องนี้พี่เสกต้องไปคุยกับลูกในวันเสาร์-อาทิตย์ที่จะถึงนี้”
“ส่วนโอกาสจะกลับมาเป็นครอบครัว
ต้องขอคุยถึงรายละเอียดว่าพี่เสกต้องการอะไร และตัวกานต์ต้องการอะไรบ้าง
คือครั้งนี้มันต้องมีเงื่อนไข”
หลังจากแถลงข่าวเสร็จ
เสกได้เปิดมินิคอนเสิร์ตให้แฟนคลับได้เข้ามาชมในหอประชุมซึ่งมีความจุได้ถึง
ร้อยคน สำหรับเพลงที่เลือกมาเล่นก็มีทั้งเพลงในอัลบั้มเก่า
และเพลงที่เสกแต่งขึ้นใหม่ รวม 10 เพลง หนึ่งในนั้นก็คือเพลง รอยยิ้มนักสู้
มีเนื้อหาว่า คนที่ล้มแล้วให้ลุกแล้วจงต่อสู้ต่อไป
โดยเพลงที่ใช้ร้องในวันนี้เสกเป็นคนเลือกเองทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในงานคอนเสิร์ตเป็นไปอย่างสนุกสนาน
ซึ่งหลังจากเล่นคอนเสิร์ตเสร็จ ทั้งเสก แม่ พี่ชาย และ กานต์
ได้เข้าไปพูดคุยกันในห้องในสถาบันธัญญารักษ์ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ
โดยเสกได้เดินทางกลับไปพร้อมกับกานต์อดีตภรรยา
โดยระหว่างที่ทั้งคู่อยู่ในลิฟท์อยู่ๆ
กานต์ก็หันไปจูจุ๊บแก้มเสกทำเอาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ฮือฮาไปตามๆ กัน
ที่มา www.manager.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ท่านสามารถแสดงข้อคิดเห็นที่เหมือน หรือ แตกต่างได้ครับ ขอความกรุณาใช้ถ้อยคำที่สุภาพด้วยครับ ขอบคุณครับ