กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นมาทันทีสำหรับการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสปีมหามงคล 84 พรรษา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ลำดับที่ 3 ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมทำหน้าที่ประธานการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา อ้างเหตุผลเรื่อง “ความลับทางราชการ” ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดของร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว...!!!
ทำให้สังคมเคลือบแคลงสงสัย ทั้งในแง่ของการนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในจังหวะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ไปราชการที่ จ.สิงห์บุรี แล้วอ้างว่าเฮลิคอปเตอร์ที่โดยสารมาไม่มีเรดาร์นำร่องในช่วงเวลากลางคืนทำ ให้ต้องนอนค้างที่ อ.อินทร์บุรี ก่อนเดินทางกลับในรุ่งเช้า และไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม. เพื่อพิจารณาวาระ “เพื่อแม้ว”
ในขณะเดียวกันยังมีข่าวกระเส็น กระสายว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ ร.ต.อ. เฉลิม เป็นผู้กำกับได้มีการแก้ไข 2-3 ประเด็น อาทิ ตัดบัญชีแนบท้ายให้ยกเว้นโทษคดียาเสพติดและคดีทุจริตคอร์รัปชั่น กำหนดหลักเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับการอภัยโทษต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปี เป็นต้น...???
หากยังไม่ลืมกระแสข่าวเมื่อ 2 เดือนก่อน ที่มีความพยายามจะปรับปรุงโรงเรียนพลตำรวจบางเขนเดิม ภายในสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต มาใช้เป็น สถานที่คุมขังชั่วคราวหลักสี่ เพื่อรองรับนักโทษคดีการเมือง คดีความมั่นคง และนักโทษต่างชาติ
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า คุกการเมืองแห่งนี้จะใช้เป็นที่รับรอง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งเคยประกาศหลายครั้งหลายหนว่าจะเดินทางกลับประเทศ
ไทยก่อนเดือน ธ.ค. นี้...!!!
ทั้งหลายทั้งปวงที่ไล่เรียงมาล้วนมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กับอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น?
เมื่อ “เครือข่ายทักษิณ” เคลื่อนไหวในเชิงรุก จึงเป็นธรรมดาที่ “กลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ” ที่จุดติดมาตั้งแต่ปี 2549 ต่างออกมาคัดค้านการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของรัฐบาลกัน เป็นแถว
ทั้ง “ขาประจำ” ไม่ว่าจะเป็น นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายแก้วสรร อติโพธิ รวมถึง นายบรรเจิด สิงคะเนติ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)82 คณาจารย์ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันบัณฑิตพัฒน
บริหารศาสตร์ ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับเงื่อนไขการอภัยโทษ
ในโลกออนไลน์ก็มีผู้ใช้ชื่อว่า “นักวิชาการสันติวิธี” สร้างเฟซบุ๊กขึ้นมาคัดค้านโดยมีชาวโซเชียลมีเดียเข้ามาเป็นแนวร่วมนับหมื่น คนแล้ว
แม้กระทั่ง “ฝ่ายค้านอาชีพ” อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกตัวแรงส์ ตั้งแต่หัวหน้าพรรคไปจนถึงลูกพรรค และใช้กลไกต่าง ๆ ในสภาอย่างเต็มสูบ ทั้งการตั้งกระทู้สด การยื่นถอดถอน และการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะที่เป็นเจ้าของเรื่องแต่ทุกฝ่ายที่ออกมาเคลื่อนไหวคัด ค้าน รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ต้องผงะ “เงื้อค้าง” ไปตาม ๆ กัน เมื่อ พล.ต.อ.ประชาออกมาเฉลยความจริงว่าเนื้อหาร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2554 มีเนื้อหาเดียวกับฉบับที่ออกโดยรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี พ.ศ. 2553 ไม่มีส่วนใดเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด
สรุปแล้ว “พ.ร.ฎ.อภัยโทษ” อาจแค่ข่าวปล่อยหวังเบี่ยงเบนกลบการบริหารน้ำผิดพลาดของรัฐบาลปูแดง หรือ คิดอีกที “นายใหญ่” หยั่งกระแสแล้วสั่งถอย!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ท่านสามารถแสดงข้อคิดเห็นที่เหมือน หรือ แตกต่างได้ครับ ขอความกรุณาใช้ถ้อยคำที่สุภาพด้วยครับ ขอบคุณครับ