2/23/2555

วางเครื่อง 2J เกียร์ Auto แล้วเปลี่ยนเข้าเกียร์ จาก N ไป D กระตุก

ไปวางเครื่อง 2 เจธรรมดา (ไม่โบ ไม่แปลงเฟืองท้าย) มา เวลาเข้าเกียร์ จาก N ไป D กระตุก แต่การเปลี่ยนเกียร์อื่น ๆ ปกติ ครับ 
การวิเคราะห์เบื้องต้น
  1. รอบเดินเบาคงสูงไป
  2. พอจะหยุด เกียร์จะเปลี่ยนลงมาที่เกียร์ต่ำ เพื่อช่วยแรงเบรค และ เพื่อพร้อมที่จะพุ่งเป็นเมื่อเรากลับมาเหยียบคันเร่ง ต่อ แต่ด้วยรอบเครื่องที่สูงไป เกียร์จึงเปลี่ยนได้ไม่นิ่มนวลคับ
สาเหตุ
  1. ปรับตั้งสายคันเร่งไม่ถูกต้อง 
  2. สัญญาณเบรคไม่เข้ากล่อง
  3. สัญญาณสปีดไม่ครบ
  4. ลิ้นปีกผีเสื้อต้องอยู่ในตำแหน่งรอบเดินเบา หรือค่าแรงเคลื่อนไฟฟ้าของเซนเซอร์ตำแหน่งปีกผีเสื้อ ไม่ถูกต้อง 
  5. ECU ผิดปกติ
  6. เกียร์มีปัญหาภายใน 
  7. ยอยยางสภาพรับไม่ได้

ถ้าเข้าเกียร์จาก N ไป D แล้วกระตุก ให้ตรวจเช็คว่ามีสัญญาณจากสวิทช์ไฟเบรคไปเข้ากล่อง ECU ตรงตำแหน่ง STP หรือไม่นะครับ (ให้เช็คว่า เวลาเหยียบเบรค มีสัญญาณไฟ + มาที่กล่อง ECU หรือไม่ แล้วเช็คว่า เข้ากล่องถูกตำแหน่งของ Pin หรือไม่นะครับ) เพราะว่า สัญญาณไฟเบรคตัวนี้ เป็นตัวแจ้งกล่อง ECU ให้ควบคุมการกระตุกของเกียร์ที่เวลาเลื่อนคันเกียร์จ าก N ไป D ครับ ถ้ามีเครื่องมือตรวจเช็คได้ว่า เกียร์ออโต้ขณะนี้อยู่เกียร์ไหน จะเห็นว่า เวลาเราเหยียบเบรค (รถหยุดนิ่ง ขณะที่ คันเกียร์อยู่ที่ D) เกียร์ออโต้จะอยู่เกียร์ 2 ทุกครั้ง แต่พอเราปล่อยเบรค แล้วมาเหยียบคันเร่ง เกียร์ออโต้ จะเปลี่ยนไปอยู่ที่เกียร์ 1 ทุกครั้ง นั่นแหละครับ แสดงว่า เกียร์ออโต้กำลังทำงานควบคุมการกระตุกอยู่ครับ
  • สัญญาณสปีดต้องมีครบ
  • สัญญาณเบรคต้องเข้ากล่อง
  • สัญญาณลิ้นเร่งต้องอยู่ที่เดินเบา
  ถ้าเข้าเกียร์จาก N ไป D แล้วกระตุก ให้ตรวจเช็คว่ามีสัญญาณจากสวิทช์ไฟเบรคไปเข้ากล่อง ECU ตรงตำแหน่ง STP หรือไม่นะครับ (ให้เช็คว่า เวลาเหยียบเบรค มีสัญญาณไฟ + มาที่กล่อง ECU หรือไม่ แล้วเช็คว่า เข้ากล่องถูกตำแหน่งของ Pin หรือไม่นะครับ) เพราะว่า สัญญาณไฟเบรคตัวนี้ เป็นตัวแจ้งกล่อง ECU ให้ควบคุมการกระตุกของเกียร์ที่เวลาเลื่อนคันเกียร์จ าก N ไป D ครับ ถ้ามีเครื่องมือตรวจเช็คได้ว่า เกียร์ออโต้ขณะนี้อยู่เกียร์ไหน จะเห็นว่า เวลาเราเหยียบเบรค (รถหยุดนิ่ง ขณะที่ คันเกียร์อยู่ที่ D) เกียร์ออโต้จะอยู่เกียร์ 2 ทุกครั้ง แต่พอเราปล่อยเบรค แล้วมาเหยียบคันเร่ง เกียร์ออโต้ จะเปลี่ยนไปอยู่ที่เกียร์ 1 ทุกครั้ง นั่นแหละครับ แสดงว่า เกียร์ออโต้กำลังทำงานควบคุมการกระตุกอยู่ครับ

ปกติถ้าเราดึงคันเกียร์จาก N มาที่ D นั้น เท้าเราจะเหยียบเบรคด้วยเสมอ ดังนั้นขณะนั้นจะเป็นเกียร์ 2 ครับ พอเราปล่อยเบรค หมุนเท้ามาเหยียบคันเร่ง เกียร์จึงจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ 1

แต่ที่ว่า เวลาเราขับรถเคลื่อนที่ไปแล้ว ไม่ว่าจะอยู่เกียร์อะไรก็ตาม เวลาเราเหยียบเบรค (เพื่อชะลอ) เกียร์จะปรับเปลี่ยนไปตามรอบเครื่อง ดังนั้น เมื่อเราเหยียบเบรคให้หยุด เกียร์จะอยู่ที่เกียร์ไหน ก็เกียร์นั้นครับ แต่ว่า เมื่อไหร่ที่เราปล่อยเบรค แล้วเหยียบคันเร่ง เกียร์จะต้องเปลี่ยนเป็นเกียร์ 1 เสมอครับ

เห็นความสำคัญของสัญญาณไฟเบรคเข้ากล่องหรือยังครับ? ถ้าไม่มีสัญญาณนี้เข้ากล่อง กล่องจะรู้ได้อย่างไรว่า ว่าเราเหยียบเบรคเพื่ออะไร และปล่อยเบรคเพื่ออะไรครับ กล่องจะตรวจเช็คความสัมพันธ์ระหว่าง เบรค รอบเครื่อง และมุมของปีกผีเสื้อ เพื่อตัดสินใจสั่งงานเกียร์ให้กระทำไปตามที่ระบบนั้น ๆ ควรจะเป็นครับ ที่เกิดการกระตุกของเกียร์ ก็เป็นด้วยประการฉะนี้แล

เกิดอาการกระตุกอย่างรุนแรงขณะที่เปลี่ยนเกียร์ทุกตำ แหน่งคันเกียร์
สาเหตุที่เป็นไปได้ แบ่งออกเป็นระบบกลไก หรือ ระบบควบคุมด้วยอิเล็คทรอนิกส์
ระบบกลไก
  • ปรับตั้งสายคันเร่งไม่ถูกต้อง
  • วาล์วปีกผีเสื้อทำงานบกพร่อง
  • ชุดเกียร์ ทำงานบกพร่อง (เกียร์พัง)
ระบบควบคุมด้วยอิเล็คทรอนิค
  • ค่าแรงเคลื่อนไฟฟ้าของเซนเซอร์ตำแหน่งปีกผีเสื้อไม่ถ ูกต้อง
  • ECU ผิดปกติ (เสีย)
การตั้งและการวัดค่าของ เซนเซอร์ตำแหน่งปีกผีเสื้อ หรือ เซนเซอร์ตำแหน่งลิ้นเร่ง
ถ้าท่านไม่มีความรู้พื้นฐานเบื้องต้นของงานช่างไฟฟ้า ไม่ควร(ห้าม)ตั้งเองนะครับ เพราะว่า จะมีผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์โดยตรงครับ

เซนเซอร์ตำแหน่งลิ้นเร่ง ของ Toyota ผลิตออกมา 2 แบบ คือ
  • แบบหน้า สัมผัสปิด-เปิด (on-off Type) เครื่องรุ่นเก่าๆ เช่น 1G และเครื่อง J รุ่นแรกๆ ใช้แบบนี้ ซึ่งจะมีอยู่ 3 ขั้วคือ IDL, TL และ PSW ซึ่งผมขออนุญาตละไว้ไม่กล่าวถึงรายละเอียด
  • แบบเชิงเส้น (Linear Type) เครื่องรุ่นใหม่ขึ้น เช่น 4A-GE, 3S, 1G และ JZ รุ่นต่อๆมา จะใช้แบบนี้ ซึ่งจะมีอยู่ 4 ขั้วคือ E2, IDL, VTA และ Vcc (จากซ้ายไปขวา มองจากสายไฟเข้าไปหาปลั๊ก)

ผมขอยกตัวอย่างการวัดและตั้งตำแหน่งหาค่าที่เหมาะสมข อง เซนเซอร์ตำแหน่งลิ้นเร่ง ในเครื่อง 2JZ-GE และ 2JZ-GTE
เครื่องมือที่ต้องใช้ก็คือ
  • ฟิลเลอร์เกจ์
  • มัลติมิเตอร์วัดกระแสและความต้านทาน
กรณีเครื่องยนต์ที่ไม่ได้ใช้เกียร์ออโต้ และใช้เกียร์ออโต้ จะวัดค่าความต้านทานดังนี้
  1. ถอดขั้วต่อสายไฟของเซนเซอร์ตำแหน่งลิ้นเร่ง ออก
  2. ใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานของ E2 - VTA เมื่อเหยียบคันเร่งสุด (ปีกผีเสื้อเปิดสุด) จะต้องได้ 3.3 - 10 K โอห์ม
  3. ใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานของ E2 - VTA เมื่อปล่อยคันเร่ง (ปีกผีเสื้อปิดสุด) จะต้องได้ 200 - 800 โอห์ม
  4. ใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานระหว่าง E2 - Vcc จะได้ 4 - 9 K โอห์ม
  5. สอดฟิลเลอร์ ที่มีความหนา 0.45 มม.(0.0177 นิ้ว) เข้าระหว่างสกรูยันแขนลิ้นเร่งและแขนกระเดื่องลิ้นเร่ง (อยู่ด้านหลังปีกผีเสื้อ ตรงสายคันเร่ง) ใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานระหว่าง E2 - IDL จะต้องได้ 0 - 2.3 K โอห์ม
  6. สอดฟิลเลอร์ ที่มีความหนา 0.55 มม.(0.0216 นิ้ว) เข้าระหว่างสกรูยันแขนลิ้นเร่งและแขนกระเดื่องลิ้นเร่ง (อยู่ด้านหลังปีกผีเสื้อ ตรงสายคันเร่ง) ใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานระหว่าง E2 - IDL จะต้องได้ค่า อินฟินิตี้ (ค่าอนันต์)

กรณีเครื่องยนต์ที่ใช้เกียร์ออโต้
  1. เสียบขั้วต่อสายไฟของเซนเซอร์ตำแหน่งลิ้นเร่งเข้าที่ เดิม
  2. เปิดสวิทช์กุญแจไว้ที่ on
  3. ใช้โวล์ทมิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้าที่ขั้ว E2 - IDL เมื่อเหยียบคันเร่งสุด (ปีกผีเสื้อเปิดสุด) จะต้องได้ 9 - 14 โวล์ท
  4. ใช้โวล์ทมิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้าที่ขั้ว E2 - IDL เมื่อปล่อยคันเร่ง (ปีกผีเสื้อปิดสุด) จะต้องได้ 0 - 1.5 โวล์ท
  5. ใช้โวล์ทมิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้าที่ขั้ว E2 - Vcc จะต้องได้ 4.9 - 5 โวลท์
  6. ใช้โวล์ทมิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้าที่ขั้ว E2 - VTA เมื่อเหยียบคันเร่งสุด (ปีกผีเสื้อเปิดสุด) จะต้องได้ 3.2 - 4.9 โวล์ท
  7. ใช้โวล์ทมิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้าที่ขั้ว E2 - VTA เมื่อปล่อยคันเร่ง (ปีกผีเสื้อปิดสุด) จะต้องได้ 0.3 - 0.8 โวล์ท
  8. ใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานระหว่าง E2 - IDL จะต้องได้ 0 - 2.3 K โอห์ม
  9. ใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานระหว่าง E2 - IDL จะต้องได้ค่า อินฟินิตี้ (ค่าอนันต์)
  10. ใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานของ E2 - VTA เมื่อเหยียบคันเร่งสุด (ปีกผีเสื้อเปิดสุด) จะต้องได้ 3.3 - 10 K โอห์ม
  11. ใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานของ E2 - VTA เมื่อปล่อยคันเร่ง (ปีกผีเสื้อปิดสุด) จะต้องได้ 200 - 800 โอห์ม
  12. ใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานระหว่าง E2 - Vcc จะได้ 4 - 9 K โอห์ม

กรณี การวัดและตั้งค่าหาตำแหน่งลิ้นเร่ง ที่เหมาะสมไม่ได้ อาจจะสามารถสันนิษฐานได้ว่า เซนเซอร์ตำแหน่งลิ้นเร่ง ชำรุด ครับ

6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ15/4/57 14:40

    ผมวาง 2 jvvti มีปันหาเรื่องคอมแอเปลี่ยนอาทิตละลูกใช้ commuter เกียออโต ต้องเปลี่ยนเฟือ
    ท้าย 9.41

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เหรอครับ ผมกำลังคิดที่จะเปลี่ยนอยู่พอดี จะได้รู้ปัญหา

      ลบ
  2. ผมของปรึกษาผู้รู้หน่อยน่ะครับ อยากรู้ว่าเป็นเพราะเกียร์หรือว่าระบบไฟ หรืออะไร ก็คือของผมเครื่อง 2jvvti มีปัญหาเหมือนเกียร์เวิลด์ลงไปว่างในเวลาขับลอยตัวแล้วมักจะเกิดกับเกียร์3 และ4 อยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไรครับ

    ตอบลบ
  3. แผ่นเกียร์มีปัญหาภายในครับ ลองเช็คน้ำมันเกียร์ก่อน ว่าขาดพร่องไปหรือเปล่า ถ้าน้ำมันเกียร์ไม่ขาด เป็นที่ชุดเกียร์ครับ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ24/7/66 13:40

    แนะนำอู่ให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อยู่แถวไหนครับ ถ้าใน กทม. มีหลายที่ ที่ซ่อมเกียร์ได้ แต่หลายที่ชอบที่จะให้เราซื้อชุดเกียร์ใหม่เลย มันก็แพงกว่านิดหน่อย

      ลบ

ท่านสามารถแสดงข้อคิดเห็นที่เหมือน หรือ แตกต่างได้ครับ ขอความกรุณาใช้ถ้อยคำที่สุภาพด้วยครับ ขอบคุณครับ